วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2559

Future Perfect Continuous Tense

หลักการใช้

  ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่จะได้ทำไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง และกำลังทำอยู่  ไม่ต้องงงนะครับ เดี๋ยวดูตัวอย่างกันเลย

แบบมีเหตุการณ์เดียว  ส่วนมากจะระบุเวลาในอนาคตด้วย เช่น
   I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
   ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
   หมายความว่า พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มกินข้าวเช้าเวลา 7.30 นาฬิกา พอถึงเวลา 8 นาฬิกา ฉันก็กินข้าวมาแล้ว      30   นาที ถ้าคุณมา 8 โมงละก็ กับข้าวก็จะไม่เหลือแล้ว ฉะนั้นถ้าจะมาต้องมาก่อน 7 โมง
   At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
   เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
   หมายความว่า พรุ่งนี้ตอนเช้าเวล 10 นาฬิกา พวกเราก็จะได้ทำงานมาแล้ว 2 ชั่วโมง ถ้าคุณอยากมา 10    โมงก็ไม่ต้องแล้ว เพราะคงไม่มีอะไรให้ทำแล้ว อ่านเพิ่มเติม

Past Perfect Continuous Tense

หลักการใช้

ใช้บอกเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว เป็นระยะเวลาหนึ่ง แล้วมีอีกเหตุการณ์เข้ามาแทรกกลางคัน

หมายความว่ามันมีสองเหตุการณ์ (สอง Tense ) และต้องใช้ตามนี้ คือ

เหตุการณ์ที่เกิดก่อนและกำลังเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่ง (ใช้ Past Perfect Continuous Tense)
เหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง (ใช้ Past Simple Tense)
**** ให้นักเรียนท่องว่า พาส เพอเฟ็ค คอน (past perfect con) เกินก่อน พาสซิม (past sim) เกิดหลัง

(เป็นครั้งที่ 3 ที่ past simple เป็นพระรองเพราะเกิดหลัง จึงสรุปได้ว่า ถ้ามีสองเหตุการณ์ในอดีตเมื่อไหร่ past simple ต้องเกิดหลังเท่านั้น) อ่านเพิ่มเติม


Present Perfect Continuous Tense

หลักการใช้

ใช้เหมือนกับ present perfect tense  ข้อที่ 1 เท่านั้น  (เหตการณ์ที่เกิดในอดีต ดำเนินมาถึงปัจจุบัน และต่อเนื่องไปในอนาคต) ทุกประการ แต่เป็นการเน้นว่าทำต่อเนื่อง
กริยาที่นำมาเติม ing ให้อ้างอิง present continuous tense ทุกประการเหมือนกัน
ตัวอย่าง เปรียบเทียบระหว่าง present perfect กับ present perfect continuous เพื่อให้เห็นความแตกต่าง

He’s worked in the garden since 8 o’clock.
เขาทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า (อาจจะทำบ้าง นั่งพักบ้าง แต่ว่าเริ่มทำตั้งแต่ 8 โมง)
He’s been working in the garden since 8 o’clock.
เขาทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า (ทำแบบไม่หยุดพักเลย ตั้งแต่ 8 โมงเรื่อยมา แบบว่าขยันมากๆ)
อ่านเพิ่มเติม

Future Perfect Tense

หลักการใช้
  ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ในอนาคต ที่จะได้ทำไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่ง และกำลังทำอยู่  ไม่ต้องงงนะครับ เดี๋ยวดูตัวอย่างกันเลย
แบบมีเหตุการณ์เดียว  ส่วนมากจะระบุเวลาในอนาคตด้วย เช่น
I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
หมายความว่า พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มกินข้าวเช้าเวลา 7.30 นาฬิกา พอถึงเวลา 8 นาฬิกา ฉันก็กินข้าวมาแล้ว 30 นาที ถ้าคุณมา 8 โมงละก็ กับข้าวก็จะไม่เหลือแล้ว ฉะนั้นถ้าจะมาต้องมาก่อน 7 โมง
At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on farm for two hours.
เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
หมายความว่า พรุ่งนี้ตอนเช้าเวล 10 นาฬิกา พวกเราก็จะได้ทำงานมาแล้ว 2 ชั่วโมง ถ้าคุณอยากมา 10 โมงก็ไม่ต้องแล้ว เพราะคงไม่มีอะไรให้ทำแล้ว อ่านเพิ่มเติม

Past Perfect Tense

หลักการใช้

ใช้บอกเหตุการณ์ในอดีตที่สิ้นสุดไปแล้ว ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์เข้ามาแทรกทีหลัง

หมายความว่ามันมีสองเหตุการณ์ (คล้าย past continuous) และต้องใช้ตามนี้ คือ

เหตุการณ์ที่เกิดก่อน (ใช้ Past Perfect Tense)
เหตุการณ์ที่เกิดทีหลัง (ใช้ Past Simple Tense)
**** ให้นักเรียนท่องว่า พาสเพอ (past per) เกิดก่อน พาสซิม (past sim) เกิดหลัง

(เป็นครั้งที่ 2 ที่ past simple เป็นพระรองเพราะเกิดหลัง) อ่านเพิ่มเติม